งานติดตั้งระบบสายไฟในบ้าน อาคาร หรือโรงงาน จำเป็นต้องใช้ท่อร้อยสายไฟเพื่อป้องกันไม่ให้สายไฟโดนน้ำ ความร้อน หรือแรงกระแทกต่างๆ ท่อร้อยสายไฟจึงมีบทบาทสำคัญในการปกป้องระบบไฟฟ้าให้ปลอดภัย และอยู่ใช้งานได้นานขึ้น
ในการเดินท่อร้อยสายไฟ มักจะต้องเลี้ยว มุมโค้ง หรือเปลี่ยนทิศทางของท่อในบางจุด ถ้าใช้ข้องอสำเร็จรูปมากเกินไป ท่อจะมีรอยต่อต่างๆ เยอะ ทำให้ดูไม่เรียบร้อย และอาจทำให้ดึงสายไฟได้ลำบาก การใช้ “สปริงดัดท่อร้อยสายไฟ” จึงเป็นทางเลือกที่นิยม เพราะช่วยให้สามารถดัดท่อได้โค้งสวยงาม โดยไม่ต้องตัดท่อหรือเชื่อมต่อหลายจุดให้ยุ่งยาก
อย่างไรก็ตาม การใช้สปริงดัดท่อจะได้ผลดีที่สุดก็ต่อเมื่อเลือก ขนาดของสปริง ให้ เหมาะสมกับขนาดของท่อ ที่ใช้งานอยู่ เพราะถ้าเลือกผิดขนาด อาจเกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น ท่อบุบ ท่อแตก หรือสปริงติดอยู่ในท่อจนดึงออกไม่ได้ ดังนั้น การเลือกขนาดสปริงให้พอดีจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
ความหมายของสปริงดัดท่อร้อยสายไฟ
สปริงดัดท่อร้อยสายไฟ คือ อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นลวดเหล็กขดเป็นเกลียว มีทั้งแบบใช้สอดเข้าไปในท่อ (สปริงด้านใน) และแบบครอบไว้ด้านนอก (สปริงด้านนอก) เพื่อช่วยพยุงไม่ให้ท่อยุบตัวหรือแตกขณะทำการดัดโค้ง สปริงจะกระจายแรงดัดให้ท่อโค้งอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ทำให้ท่อเสียรูป

ประเภทของท่อร้อยสายไฟที่ใช้กับสปริงดัดท่อ
- ท่อ PVC สีขาวหรือสีเทา – มีความยืดหยุ่นเล็กน้อย เหมาะกับการใช้สปริงดัดท่อด้านในหรือด้านนอก
- ท่อ EMT (ท่อเหล็กบาง) – ต้องใช้สปริงขนาดพอดีและแข็งแรง เพราะท่อมีความแข็งมาก
- ท่อเฟล็กซ์พลาสติก – บางกรณีไม่จำเป็นต้องใช้สปริง แต่ถ้าดัดในมุมแคบอาจต้องใช้สปริงช่วยเพื่อรักษารูปทรง
เหตุผลที่ต้องเลือกขนาดสปริงให้เหมาะกับท่อ
- เพื่อป้องกันไม่ให้ท่อบุบหรือเสียรูป
เมื่อใช้สปริงที่มีขนาดพอดีกับท่อ แรงดัดจะกระจายเท่ากันทั่วผิวท่อ ทำให้ท่อโค้งได้สวยงาม ไม่บุบ ไม่ย่น และไม่เสียรูป แต่ถ้าใช้สปริงเล็กหรือใหญ่เกินไป จะไม่สามารถรองรับแรงดัดได้อย่างเหมาะสม ทำให้เกิดรอยบุบหรือรอยพับได้
- เพื่อให้สปริงเข้าและออกจากท่อได้ง่าย
ถ้าใช้สปริงขนาดใหญ่เกินไป อาจติดคาในท่อจนดึงไม่ออก ต้องเสียเวลาแก้ไข หรืออาจต้องตัดทิ้งทั้งท่อและสปริง แต่ถ้าใช้สปริงเล็กเกินไป เวลาดัดท่อ สปริงจะไม่แนบกับผิวในหรือผิวนอกของท่อ ทำให้ท่อบิดหรือย่นได้ง่าย
- เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
การดัดท่อที่มีสปริงพอดีกับท่อ จะทำให้ควบคุมทิศทางการดัดได้ง่ายขึ้น ลดโอกาสที่ท่อจะหักหรือดีดกลับใส่มือผู้ใช้งาน ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุระหว่างทำงาน
- เพื่อให้ท่อสามารถร้อยสายไฟได้ง่ายในภายหลัง
ท่อที่ดัดแล้วโค้งเรียบ ไม่มีรอยพับหรือบุบ จะทำให้การร้อยสายไฟเป็นไปอย่างลื่นไหล ไม่ติดขัด ถ้าท่อบุบจากการดัดด้วยสปริงที่ไม่พอดี อาจทำให้ร้อยสายไฟลำบาก หรือทำให้สายไฟขาดระหว่างการดึง
- เพื่อยืดอายุการใช้งานของสปริง
การใช้สปริงที่พอดีกับท่อจะช่วยลดการเสียดสีหรือบิดงอของตัวสปริง ทำให้ไม่เสียรูป ไม่หักงอ และไม่เป็นสนิมเร็ว ใช้งานได้นานและคุ้มค่า

ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อเลือกขนาดสปริงดัดท่อไม่เหมาะสม
- สปริงติดคาท่อ ดึงออกไม่ได้
ถ้าใช้สปริงที่ใหญ่เกินไป เมื่อสอดเข้าไปในท่อแล้วดัด ท่อจะรัดสปริงแน่นมาก ทำให้สปริงติดอยู่ในท่อจนดึงออกไม่ได้ ต้องตัดท่อทิ้งหรือใช้แรงมากในการงัดออก
ผลกระทบ: เสียเวลา เสียท่อ และเสี่ยงที่สปริงจะหักหรือท่อเสียหาย
- สปริงหลวมเกินไป ไม่ช่วยพยุงท่อ
ถ้าใช้สปริงที่เล็กกว่าท่อมากเกินไป เมื่อใส่เข้าไปแล้ว สปริงจะไม่แนบกับผนังท่อ แรงดัดจะไม่กระจายทั่ว ทำให้ท่อยุบหรือพับง่าย
ผลกระทบ: ท่อบิดเสียรูป หรืออาจแตกร้าวตรงจุดโค้ง
- ท่อบุบหรือยุบตัว
การเลือกสปริงที่ไม่พอดี ทำให้แรงดัดไม่กระจายเท่ากัน ทำให้เกิดแรงกดที่จุดใดจุดหนึ่งมากเกินไป จนท่อบุบหรือยุบ
ผลกระทบ: ท่อไม่สามารถร้อยสายไฟได้ หรือทำให้สายติดค้างข้างใน
- ท่อแตกหรือร้าว
ถ้าใช้สปริงเล็ก หรือไม่มีแรงต้านที่พอดี เวลาดัด ท่อจะโดนบิดแรงเฉพาะจุดจนแตกหรือร้าว โดยเฉพาะกับท่อ PVC ที่บาง
ผลกระทบ: ท่อต้องเปลี่ยนใหม่ เสียเวลาและวัสดุ
- ดัดได้มุมไม่สวย หรือมุมพับผิดรูป
สปริงที่หลวมเกินไปทำให้ควบคุมมุมไม่ได้ ท่อจะไม่โค้งเรียบ แต่จะมีรอยพับหรือโค้งเบี้ยว
ผลกระทบ: งานดูไม่เรียบร้อย ทำให้เดินสายไฟลำบาก และอาจเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ท่อเสียหายเร็ว
- สายไฟร้อยผ่านยาก หรือสายขาด
ท่อที่บิดหรือพับจากการดัดผิดวิธี อาจทำให้ภายในท่อแคบลงหรือเป็นมุมแหลม เวลาร้อยสายไฟจะติดหรือเสียดสี
ผลกระทบ: สายไฟเสียหาย ขาดกลาง หรือฉนวนหลุด เสี่ยงไฟฟ้ารั่ว
- เครื่องมือเสียหายเร็ว
ใช้สปริงผิดขนาดอาจต้องใช้แรงมากเกินไป หรือสปริงบิดผิดรูปบ่อย ๆ ทำให้สปริงเสียรูป หรือหักได้ง่าย
ผลกระทบ: ต้องซื้อสปริงใหม่บ่อย ไม่คุ้มค่าต่อการใช้งาน
- ใช้แรงมากเกินไป เสี่ยงอุบัติเหตุขณะทำงาน
เมื่อเลือกสปริงที่ไม่พอดีกับขนาดท่อ ผู้ใช้งานอาจต้องใช้แรงดัดมากกว่าปกติ เช่น บิดแรง ดึงแรง หรือกดหนัก ส่งผลให้มือหลุดจากท่อ เครื่องมือกระเด้ง หรือท่อตีกลับใส่ตัวเอง
ผลกระทบ: เพิ่มความเสี่ยงบาดเจ็บ เช่น นิ้วช้ำ มือโดนท่อกระแทก หรือบาดจากปลายสปริงที่แข็งและแหลม
วิธีการเลือกขนาดสปริงดัดท่อให้ถูกต้อง
- ดูขนาดท่อที่ใช้งานจริง เช่น ท่อ 16 มม., 20 มม., 25 มม.
- เลือกสปริงที่ระบุขนาดตรงกับท่อ เช่น สปริง 16 มม. ใช้กับท่อ 16 มม.
- ตรวจสอบความยาวของสปริง ให้ครอบคลุมจุดที่ต้องการดัดทั้งหมด
- เลือกวัสดุของสปริงที่เหมาะสม เช่น สแตนเลส หรือเหล็กเคลือบกันสนิม
- เลือกประเภทให้ถูก เช่น สปริงภายในสำหรับดัดจากด้านใน และสปริงภายนอกสำหรับครอบด้านนอก
เคล็ดลับเล็กน้อยในการใช้งาน
- ใช้น้ำสบู่ทาบางๆ ที่สปริงก่อนสอดเข้าไปในท่อ จะช่วยให้ดึงออกง่าย
- ถ้าท่อแข็งมาก อาจใช้ลมร้อนหรือแช่น้ำอุ่นเพื่อให้นิ่มลงก่อนดัด
- ไม่ควรดัดเร็วเกินไป ควรค่อยๆ ดัดช้าๆ เพื่อควบคุมรูปทรงให้ได้ตามต้องการ
- หลังใช้งานควรเช็ดสปริงให้แห้ง เก็บไว้ในที่ไม่ชื้น เพื่อป้องกันสนิม
การเลือกขนาดสปริงดัดท่อให้เหมาะสมกับขนาดท่อ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานที่มีคุณภาพ หากเลือกขนาดผิด อาจส่งผลกระทบต่อทั้งชิ้นงาน ท่อ สายไฟ และแม้แต่เครื่องมืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง การรู้จักเลือกขนาดให้ถูกต้อง และใช้งานด้วยความระมัดระวัง จะช่วยให้การติดตั้งท่อร้อยสายไฟเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุกขั้นตอน












