แปรงทาสีเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับการทาสีบ้าน เฟอร์นิเจอร์ หรือทำงานศิลปะต่าง ๆ หากดูแลแปรงไม่ดี ขนแปรงจะเสียหาย แข็งตัว หรือหลุดลุ่ย ทำให้งานทาสีออกมาไม่สวยงาม และต้องเสียเงินซื้อแปรงใหม่บ่อยครั้ง แต่ถ้ารู้วิธีดูแลและซ่อมบำรุงอย่างถูกต้อง จะสามารถทำให้แปรงกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง และช่วยประหยัดทรัพยากรได้มาก
การดูแลแปรงทาสีหลังใช้งาน
หลังจากทาสีเสร็จแล้ว การดูแลแปรงทาสีอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อไม่ให้ขนแปรงแข็งตัว เสียรูป หรือหลุดลุ่ย ช่วยยืดอายุการใช้งาน และประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อแปรงใหม่
1. ล้างแปรงตามชนิดของสีที่ใช้
การทำความสะอาดแปรงต้องเริ่มจากการเลือกน้ำยาล้างให้ถูกกับชนิดของสีที่ใช้ทา การเลือกใช้น้ำยาล้างที่ถูกต้อง ช่วยให้ขนแปรงคงความนุ่ม และยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น
- ถ้าใช้ สีน้ำ เช่น สีน้ำอะคริลิก หรือสีน้ำทาผนังทั่วไป ควรล้างแปรงด้วย น้ำสะอาด ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้สีแห้งติดขนแปรงจนแข็งตัว
- ถ้าใช้ สีน้ำมัน เช่น สีทาไม้ หรือสีทาโลหะ ควรล้างแปรงด้วย น้ำมันสน หรือ ทินเนอร์ ก่อน เพื่อขจัดคราบสีออกจากขนแปรงให้หมด แล้วล้างต่อด้วย น้ำสบู่อ่อน ๆ เพื่อขจัดคราบมันและกลิ่นของน้ำมันออกให้สะอาด
2. สะบัดน้ำออกจากแปรงเบา ๆ
หลังจากล้างแปรงจนสะอาดแล้ว ไม่ควรบิดขนแปรงแรง ๆ เพราะจะทำให้ขนแปรงเสียรูป กระจายออก หรือหลุดจากโคนแปรง
- ควร จับที่โคนแปรงเบา ๆ แล้ว สะบัดน้ำออกด้วยการเขย่าเบา ๆ เพื่อให้น้ำที่อยู่ในขนแปรงไหลออกเองตามธรรมชาติ
- การสะบัดน้ำเบา ๆ ช่วยป้องกันขนแปรงหักงอ และช่วยให้แปรงแห้งได้เร็วขึ้นโดยไม่เสียรูป
3. จัดรูปขนแปรงให้เรียบร้อย
เมื่อสะบัดน้ำออกแล้ว ขนแปรงอาจดูยุ่งเหยิงหรือไม่เป็นระเบียบ
- ควรใช้ นิ้วมือค่อย ๆ ลูบและจัดแต่งขนแปรงให้กลับมาอยู่ในทรงเดิม อย่างนุ่มนวล ไม่กระชากหรือกดแรง
- การจัดขนแปรงให้เรียบร้อยก่อนตากแห้ง จะช่วยให้แปรงคงรูปเดิม ไม่บาน และพร้อมใช้งานได้ดีในครั้งต่อไป
4. ตากแปรงในที่อากาศถ่ายเท
การทำให้แปรงแห้งอย่างถูกต้องเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญมาก
- ควร แขวนแปรงโดยให้ปลายขนชี้ลง เพื่อให้น้ำไหลออกจากขนแปรงและโคนแปรงได้หมด ป้องกันน้ำขังที่โคนแปรงซึ่งอาจทำให้กาวที่ยึดขนแปรงเสื่อมคุณภาพ
- ถ้าไม่มีที่แขวน สามารถ วางแปรงในแนวนอน บนพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี เช่น บนตะแกรง หรือไม้ที่มีช่องว่าง
- หลีกเลี่ยงการตากแปรงในที่อับชื้นหรือโดนแดดจัดเกินไป เพราะอาจทำให้ขนแปรงแข็งเกินและเสื่อมคุณภาพ
วิธีซ่อมบำรุงแปรงทาสีที่แข็งหรือเสียรูป
บางครั้งแปรงทาสีที่ใช้แล้วไม่ได้ทำความสะอาดทันที หรือเก็บไม่ดี อาจทำให้ขนแข็งตัวหรือเสียรูป วิธีซ่อมบำรุงสามารถทำได้ดังนี้
- แช่ขนแปรงในน้ำอุ่น นำน้ำอุ่นใส่ภาชนะ แล้วแช่ขนแปรงลงไปประมาณ 30 นาที ความร้อนจากน้ำอุ่นจะช่วยทำให้สีที่แข็งตัวละลายและขนแปรงนุ่มขึ้น
- ใช้แปรงขัดทำความสะอาด หลังแช่น้ำอุ่น ใช้แปรงขัดเล็ก ๆ หรือหวีซี่ถี่ ๆ ค่อย ๆ ขูดเศษสีที่ติดออกจากขนแปรงอย่างระมัดระวัง
- ล้างด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ อีกครั้ง เมื่อละลายสีแข็งและขจัดคราบออกแล้ว ควรล้างซ้ำด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ เพื่อให้ขนแปรงสะอาดและนุ่มอีกครั้ง
- จัดรูปทรงแปรงก่อนตาก เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้ว ควรจัดรูปขนแปรงให้เข้าที่ แล้วตากให้แห้งอย่างเหมาะสม
เคล็ดลับการเก็บรักษาแปรงทาสีให้อยู่ในสภาพดี
การเก็บรักษาแปรงอย่างถูกวิธีช่วยยืดอายุการใช้งาน และทำให้แปรงพร้อมใช้ทุกครั้งที่ต้องการ
- เก็บแปรงในที่แห้งและสะอาด หลีกเลี่ยงการเก็บแปรงในที่อับชื้น เพราะความชื้นจะทำให้ขนแปรงขึ้นรา หรือทำให้กาวที่ยึดขนเสื่อมสภาพ
- ใช้ปลอกหรือกระดาษห่อขนแปรง ใช้กระดาษห่อขนแปรงหลวม ๆ หรือใช้ปลอกแปรง เพื่อช่วยคงรูปทรงขนแปรงให้สวยงาม ไม่บานหรือเสียทรง
- เก็บแปรงในแนวห้อยปลายขนลง การแขวนแปรงด้วยปลายขนลงช่วยให้ขนแปรงไม่เสียรูป และป้องกันน้ำค้างในโคนแปรง
การนำแปรงเก่ากลับมาใช้ซ้ำในงานอื่น ๆ
หากแปรงเก่าไม่สามารถกลับมาใช้งานกับงานละเอียดได้อีก อาจนำไปใช้กับงานอื่นแทน เช่น
- ใช้แปรงเก่าสำหรับทาสีรองพื้นที่ไม่ต้องการความเรียบร้อยมาก
- ใช้แปรงเก่าสำหรับทายากันสนิมบนโครงเหล็ก
- ใช้แปรงเก่าสำหรับทำงานศิลปะที่ต้องการพื้นผิวขรุขระพิเศษ
ประโยชน์ของการดูแลแปรงทาสีอย่างถูกวิธี
การดูแลแปรงอย่างถูกวิธีช่วยประหยัดเงิน เพราะไม่ต้องซื้อแปรงใหม่บ่อย ๆ นอกจากนี้ยังช่วยลดขยะ และช่วยให้เครื่องมือพร้อมใช้งานทุกครั้งที่ต้องการ โดยเฉพาะงานทาสีที่ต้องการความเรียบร้อย การมีแปรงสภาพดีจะช่วยให้งานออกมาสวยงามและง่ายขึ้นมาก
การดูแลและซ่อมบำรุงแปรงทาสีอย่างถูกวิธีเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ควรล้างแปรงทันทีหลังใช้งาน เก็บในที่แห้ง และซ่อมบำรุงเมื่อแปรงแข็งหรือเสียรูป เพื่อให้แปรงสามารถใช้งานซ้ำได้หลายครั้ง และช่วยให้ทุกงานทาสีออกมาสวยงามอย่างมีคุณภาพ