การทาสีผนังให้เรียบเนียนและสวยงามไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ามีการเลือกแปรงทาสีที่เหมาะสมกับขนาดและรูปทรงของผนัง การเลือกแปรงที่ถูกต้องจะช่วยให้งานเสร็จเร็ว พื้นผิวเรียบสวย และลดปัญหาต่าง ๆ เช่น สีไม่สม่ำเสมอ หรือทาไม่ทั่วถึง
ความสำคัญของการเลือกแปรงให้เหมาะกับผนัง
ขนาดของผนัง รูปทรง และลักษณะพื้นผิว มีผลต่อการเลือกแปรงทาสีอย่างมาก การเลือกแปรงที่เหมาะสมช่วยให้งานออกมาดี ประหยัดเวลา และประหยัดสีด้วย
- ผนังกว้างเรียบ ต้องใช้แปรงที่สามารถทาครอบคลุมพื้นที่ได้มาก
- ผนังที่มีซอกมุมหรือรายละเอียด ต้องใช้แปรงที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย
- ผนังที่มีพื้นผิวขรุขระ ต้องใช้แปรงที่สามารถทาให้สีซึมลึกเข้าไปได้
ประเภทของแปรงทาสีที่ใช้กับผนัง
แปรงทาสีมีหลายแบบ แต่ละแบบเหมาะกับงานที่แตกต่างกัน
- แปรงแบน (Flat Brush) ใช้สำหรับทาผนังเรียบ ทาพื้นที่กว้างได้รวดเร็ว เหมาะกับการทาสีรอบแรก
- แปรงหัวเฉียง (Angled Brush) ใช้สำหรับเก็บรายละเอียด เช่น ทาขอบหน้าต่าง ขอบประตู หรือมุมผนัง
- แปรงลูกกลิ้ง (Roller Brush) เหมาะสำหรับผนังที่ต้องการทาสีรวดเร็ว และให้พื้นผิวเรียบเนียน
- แปรงกลม (Round Brush) เหมาะกับงานวาดลวดลาย หรือตกแต่งผนังในบริเวณเล็ก ๆ
การเลือกขนาดของแปรงตามพื้นที่ผนัง
การเลือกขนาดของแปรงช่วยให้การทาสีง่ายและรวดเร็วมากขึ้น
- แปรงขนาดใหญ่ (3 – 4 นิ้ว) เหมาะสำหรับทาผนังขนาดใหญ่ พื้นที่กว้าง ทำให้ทาได้เร็วและสีเรียบเสมอกัน
- แปรงขนาดกลาง (2 – 2.5 นิ้ว) เหมาะสำหรับผนังขนาดปานกลาง หรือใช้ทาในบริเวณที่ไม่กว้างมาก
- แปรงขนาดเล็ก (0.5 – 1.5 นิ้ว) เหมาะสำหรับเก็บรายละเอียด เช่น ทารอยต่อ มุม หรือบริเวณขอบต่าง ๆ
เลือกแปรงตามลักษณะพื้นผิวของผนัง
พื้นผิวของผนังแต่ละแบบต้องการแปรงที่ต่างกันเพื่อให้ทาสีได้สวยและติดทน
ผนังเรียบ
ผนังเรียบเหมาะสำหรับการใช้แปรงแบนหรือแปรงลูกกลิ้งขนสั้น เพราะพื้นผิวผนังเรียบไม่ต้องการการลงสีที่หนามาก การใช้แปรงลักษณะนี้จะช่วยให้สีปาดได้เรียบเนียน ไม่ทิ้งรอยแปรง และช่วยให้ผนังดูสวยเสมอกันทุกส่วน
ผนังขรุขระ หรือมีลาย
ผนังขรุขระ หรือผนังที่มีลวดลายพื้นผิว เช่น ผนังปูนเปลือย หรือผนังมีรอยหลุมร่อง ต้องใช้แปรงขนยาว หรือเลือกใช้ลูกกลิ้งขนยาว เพื่อให้สีสามารถแทรกซึมเข้าไปในร่องลึกและขรุขระได้อย่างทั่วถึง ทำให้สีปกคลุมพื้นผิวได้สวยและสม่ำเสมอ
ผนังมีลวดลายพิเศษ
ผนังที่ต้องการลวดลายพิเศษ เช่น ลายฟองน้ำ หรือลายเส้นธรรมชาติ ควรเลือกใช้แปรงกลม หรือแปรงหัวพัด เพราะรูปทรงของแปรงเหล่านี้ช่วยสร้างเอฟเฟกต์ลวดลายบนพื้นผิวได้ง่าย เพิ่มความสวยงามและความมีมิติให้กับผนังได้อย่างน่าสนใจ
เทคนิคการทาสีผนังให้เรียบเนียน
การทาสีให้สวยไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่แปรงที่ใช้เท่านั้น แต่ยังต้องใช้เทคนิคที่ถูกต้องด้วย
- จุ่มสีให้พอดี จุ่มสีลงบนแปรงประมาณหนึ่งในสามของขนแปรง แล้วเคาะสีส่วนเกินออกเบา ๆ
- ทาในทิศทางเดียวกัน ลากแปรงในแนวเดียว เช่น บนลงล่าง หรือซ้ายไปขวา เพื่อให้สีเรียบและสม่ำเสมอ
- ทำงานแบบเปียกทับเปียก (Wet on Wet) ทาสีขณะที่สีเก่ายังไม่แห้งสนิท เพื่อป้องกันเส้นรอยต่อหรือรอยแปรง
- เก็บรายละเอียดเมื่อสีชั้นแรกแห้ง หลังสีแห้งแล้ว ค่อยใช้แปรงขนาดเล็กเก็บรายละเอียดตามขอบ มุม หรือซอก
การดูแลแปรงหลังทาสี
การดูแลแปรงหลังใช้งานช่วยให้แปรงอยู่ในสภาพดี และสามารถนำมาใช้ใหม่ได้หลายครั้ง
- ล้างแปรงทันทีหลังทาสีเสร็จ โดยใช้น้ำสำหรับสีน้ำ หรือทินเนอร์สำหรับสีน้ำมัน
- สะบัดน้ำออกเบา ๆ แล้วจัดขนแปรงให้เข้ารูป
- แขวนตากในที่ลมผ่าน หลีกเลี่ยงการวางแช่น้ำ
การเลือกแปรงทาสีให้เหมาะกับขนาด รูปทรง และพื้นผิวของผนัง ช่วยให้งานทาสีเรียบเนียนสวยงามเหมือนมืออาชีพ ควรใส่ใจในการเลือกขนาด รูปแบบแปรง และใช้เทคนิคการทาสีที่ถูกต้อง เพื่อให้ผนังที่ทาดูสวย สดใส และใช้งานได้นานขึ้นทุกครั้งที่ลงมือทำ