การทาสีให้สวยงาม เรียบเนียน และไม่มีรอยแปรงไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าใช้วิธีที่ถูกต้อง ตั้งแต่การเตรียมพื้นผิว การเลือกแปรง และการลงสีอย่างเหมาะสม งานทาสีที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องของสีที่ใช้ แต่ยังขึ้นอยู่กับขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการทาสีเสร็จสมบูรณ์
การเตรียมพื้นผิวก่อนทาสี
การเตรียมพื้นผิวเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก หากทำไม่ดี สีที่ทาอาจหลุดลอก หรือไม่เรียบเนียนได้
1. ทำความสะอาดพื้นผิว
ก่อนทาสี ควรทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาด ไม่มีฝุ่น ผง ดิน หรือคราบไขมัน หากมีคราบมันให้ล้างด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ แล้วเช็ดให้แห้ง
2. ซ่อมแซมพื้นผิว
หากมีรอยร้าว หลุม หรือรอยแตก ควรใช้วัสดุอุดรอย เช่น ปูนฉาบบาง หรือวัสดุอุดรอยพิเศษ แล้วขัดให้เรียบ ก่อนลงสีจริง
3. ขัดพื้นผิว
ขัดพื้นผิวเบา ๆ ด้วยกระดาษทราย เพื่อให้พื้นผิวเรียบเนียน และช่วยให้สีเกาะติดได้ดีขึ้น หากเป็นพื้นผิวเก่าที่มีสีลอก ควรขัดเอาสีเก่าออกก่อน
4. ทายารองพื้น
พื้นผิวบางประเภท เช่น ไม้ ปูน หรือโลหะ ควรทายารองพื้นก่อน เพื่อป้องกันการดูดซึมสีเกินไป และช่วยให้สีจริงติดแน่น ทนทานมากขึ้น
เวลาที่เหมาะในการทาสี
ช่วงเวลาที่เลือกทาสีก็มีผลต่อความสวยงามของงานเช่นกัน
- ช่วงเช้า หรือ ช่วงบ่ายต้น ๆ เป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะอากาศไม่ร้อนหรือชื้นจนเกินไป ทำให้สีแห้งได้พอดี
- ควรหลีกเลี่ยงการทาสีในช่วงกลางวันที่แดดจัด เพราะสีจะแห้งเร็วเกินไปจนทาไม่เรียบ
- หลีกเลี่ยงวันที่ฝนตก หรือมีความชื้นสูง เพราะความชื้นจะทำให้สีแห้งช้า และทำให้สีหลุดลอกได้ง่าย
- อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการทาสีอยู่ที่ประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส
เคล็ดลับการใช้แปรงทาสีให้ไร้รอย
การทาสีให้เรียบเนียน ไม่มีรอยแปรง ต้องใช้เทคนิคที่ถูกต้องในแต่ละขั้นตอน
1. เลือกแปรงที่เหมาะสม
- สำหรับพื้นที่กว้าง เลือกแปรงขนาดใหญ่ เช่น 3-4 นิ้ว
- สำหรับขอบมุม หรือพื้นที่แคบ ใช้แปรงหัวเฉียงหรือแปรงขนาดเล็ก
- ใช้แปรงที่ขนแปรงนุ่ม และแน่นพอดี เพื่อให้การทาสีไหลลื่นและเรียบเนียน
2. จุ่มสีอย่างถูกวิธี
- จุ่มแปรงลงในสีประมาณหนึ่งในสามของขนแปรง
- เคาะเบา ๆ ที่ขอบถังสี เพื่อเอาสีส่วนเกินออก
- ห้ามถูแปรงกับขอบถังแรง ๆ เพราะทำให้สีในแปรงไม่สม่ำเสมอ
3. ทาสีด้วยน้ำหนักมือที่พอดี
- กดแปรงเบา ๆ อย่าใช้แรงกดมากเกินไป
- ลากแปรงยาว ๆ ไปในทิศทางเดียว ไม่ควรป้ายไปมา
- ทาซ้ำอีกครั้งในทิศทางเดียวกับครั้งแรก เพื่อความเรียบเนียน
4. ทำงานแบบ “เปียกทับเปียก”
- ทาสีในขณะที่สีเก่ายังไม่แห้งสนิท เพื่อไม่ให้เกิดรอยต่อหรือเส้นแบ่ง
- เรียกเทคนิคนี้ว่า “เปียกทับเปียก” (Wet on Wet)
5. ระวังรอยหยดและรอยย้อย
- หากเห็นหยดสีหรือลายหยดย้อยให้รีบเกลี่ยทันที
- ใช้แปรงลากเบา ๆ ทับเพื่อเกลี่ยให้เรียบ
การดูแลแปรงขณะทาสี
ในระหว่างที่ทาสี ควรรักษาแปรงให้สะอาดและนุ่มอยู่เสมอ
- หากหยุดทาสีชั่วคราว ควรห่อแปรงด้วยพลาสติกเพื่อกันแห้ง
- หากต้องการใช้แปรงต่อภายในไม่กี่ชั่วโมง ให้แช่ขนแปรงในน้ำสะอาดหรือน้ำมัน (ตามชนิดของสีที่ใช้)
- หลีกเลี่ยงการวางแปรงทิ้งไว้ในถังสี เพราะจะทำให้ขนแปรงบานและเสียรูป
วิธีการเก็บรักษาแปรงหลังการใช้งาน
หลังจากทาสีเสร็จแล้ว ควรล้างแปรงให้สะอาดทันที เพื่อยืดอายุการใช้งาน
- ถ้าใช้สีน้ำ ล้างด้วยน้ำสะอาด
- ถ้าใช้สีน้ำมัน ล้างด้วยทินเนอร์หรือน้ำมันสน
- สะบัดน้ำออกจากแปรง แล้วจัดขนแปรงให้เป็นรูปเดิม
- แขวนแปรงให้ขนแปรงลงด้านล่าง หรือวางแปรงในแนวนอน เพื่อป้องกันขนบาน
การทาสีให้ได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียน ไร้รอยแปรง ไม่ได้ยากเกินไป หากใส่ใจตั้งแต่การเตรียมพื้นผิว เลือกเวลาที่เหมาะสม และใช้เทคนิคการทาสีอย่างถูกต้อง ควรฝึกฝนให้ชำนาญ และดูแลแปรงให้สะอาดเสมอ เพื่อให้ผลงานออกมาสวยงามทุกครั้งที่ลงมือทาสี