หินเจียรนัยเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการขัดแต่งผิววัสดุและโลหะ โดยมีหน้าที่หลักในการเจียรพื้นผิวที่หยาบหรือไม่เรียบออกให้เรียบเนียนและมีความสม่ำเสมอ วัสดุที่ใช้ในการผลิตหินเจียรนัยมีหลายประเภท โดยแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติด้านความแข็งแรงและความคงทนที่แตกต่างกันไปตามการใช้งาน หินเจียรนัยที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกันจะเหมาะสมกับงานเจียรแต่ละประเภท วัสดุหลักที่ใช้ในการผลิตหินเจียรนัยมีดังนี้
วัสดุที่ใช้ทำหินเจียรนัย ความแข็งแรง และสีของแต่ละแบบ
1. อะลูมิเนียมออกไซด์ (Aluminum Oxide)
อะลูมิเนียมออกไซด์เป็นวัสดุที่ใช้ในการผลิตหินเจียรนัยที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากมีความแข็งแรงและทนทานสูง เหมาะสำหรับการเจียรเหล็กกล้า เหล็กคาร์บอน และวัสดุที่มีความแข็งปานกลาง โดยเฉพาะงานที่ไม่ต้องการความเร็วสูง สีของหินเจียรนัยที่ทำจากอะลูมิเนียมออกไซด์คือ สีชมพู หรือ สีเทา ความแข็งแรงของอะลูมิเนียมออกไซด์อยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับการขัดโลหะทั่วไป
2. ซิลิกอนคาร์ไบด์ (Silicon Carbide)
ซิลิกอนคาร์ไบด์เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงสูง มักใช้ในการผลิตหินเจียรสำหรับวัสดุที่แข็งแรงมาก เช่น แก้ว หิน อโลหะ และเซรามิก ด้วยความคมและความทนทานสูง เหมาะสำหรับงานเจียรละเอียดที่ต้องการความแม่นยำ สีของหินเจียรนัยที่ทำจากซิลิกอนคาร์ไบด์คือ สีเขียว และบางครั้งอาจเป็น สีดำ ความแข็งแรงของซิลิกอนคาร์ไบด์ทำให้เหมาะกับงานขัดที่ต้องการความละเอียดสูง
3. เซอร์โคเนียอลูมิเนียม (Zirconia Alumina)
เซอร์โคเนียอลูมิเนียมเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงสูงและทนต่อการสึกหรอได้ดี เหมาะสำหรับงานเจียรหนักที่ต้องการความทนทาน เช่น งานเจียรเหล็กกล้าความแข็งสูงหรือเหล็กสเตนเลส หินเจียรนัยที่ทำจากเซอร์โคเนียอลูมิเนียมมักจะมี สีน้ำเงิน หรือ สีฟ้า ความแข็งแรงของวัสดุนี้ทำให้สามารถทนต่อแรงกระแทกและการสึกหรอได้ดี เหมาะสำหรับการเจียรงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและทนทานต่อแรงกดสูง
4. เพชรสังเคราะห์ (Synthetic Diamond)
เพชรสังเคราะห์เป็นวัสดุที่มีความแข็งที่สุดในบรรดาวัสดุที่ใช้ทำหินเจียร เหมาะสำหรับงานเจียรที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น การเจียรวัสดุแข็งมาก เช่น กระจก หินแกรนิต หรือโลหะที่มีความแข็งพิเศษ หินเจียรที่ทำจากเพชรสังเคราะห์มักจะมี สีเหลือง หรือ สีขาว ความแข็งแรงของเพชรสังเคราะห์ทำให้เหมาะสำหรับการเจียรที่ต้องการความแม่นยำและความคงทนต่อการสึกหรอ
5. ลูกแก้วบอรอนไนไตรด์ (Cubic Boron Nitride – CBN)
ลูกแก้วบอรอนไนไตรด์มีคุณสมบัติแข็งแรงสูงเป็นอันดับรองจากเพชร เหมาะสำหรับการเจียรเหล็กแข็งและโลหะที่มีความต้านทานการสึกกร่อน เช่น เหล็กกล้าแข็ง เหล็กเครื่องมือ และเหล็กหล่อ หินเจียรที่ทำจากลูกแก้วบอรอนไนไตรด์มี สีดำ หรือ สีน้ำตาล ความแข็งแรงของวัสดุนี้ทำให้สามารถเจียรงานหนักที่ต้องการความทนทานและคงทนต่อแรงกดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความเหมาะสมของหินเจียรนัยกับงานเจียรประเภทต่าง ๆ
- การเจียรโลหะทั่วไป อะลูมิเนียมออกไซด์เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการเจียรโลหะทั่วไป เช่น เหล็กกล้าและเหล็กคาร์บอน เหมาะกับงานเจียรที่ไม่ต้องการความเร็วสูงมากนัก เช่น การเจียรผิวที่หยาบออกก่อนการขัดเงา
- การเจียรแก้วและเซรามิก ซิลิกอนคาร์ไบด์เป็นวัสดุที่ใช้สำหรับการเจียรแก้ว เซรามิก หิน หรืออโลหะ เนื่องจากมีความคมและความแข็งสูง ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดและการขัดเงาสูง โดยไม่ทำให้วัสดุเสียรูป
- การเจียรงานหนัก เซอร์โคเนียอลูมิเนียมเหมาะสำหรับการเจียรงานหนักที่ต้องการความทนทานสูง เช่น การเจียรเหล็กสเตนเลสหรือเหล็กกล้าความแข็งสูง วัสดุนี้ทนต่อแรงกระแทกและการสึกหรอได้ดี ทำให้ใช้งานได้นานและคุ้มค่า
- การเจียรความละเอียดสูง เพชรสังเคราะห์เหมาะสำหรับงานเจียรที่ต้องการความละเอียดสูงและแม่นยำ เช่น การเจียรกระจก หินแกรนิต หรือโลหะที่มีความแข็งพิเศษ เนื่องจากความแข็งแรงของเพชรสังเคราะห์ทำให้สามารถเจียรได้อย่างละเอียดและไม่ทำให้วัสดุเสียหาย
- การเจียรเหล็กแข็ง ลูกแก้วบอรอนไนไตรด์เหมาะสำหรับงานเจียรเหล็กแข็งที่ต้องการความคงทน เช่น การเจียรเหล็กเครื่องมือหรือเหล็กกล้า ความแข็งแรงของวัสดุนี้ช่วยให้การเจียรทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
หินเจียรนัยมีวัสดุหลากหลายชนิดที่ใช้ในการผลิต ซึ่งแต่ละชนิดมีความแข็งแรงและความทนทานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้หินเจียรนัยที่เหมาะสมกับประเภทของงานเจียรเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและคุ้มค่าต่อการใช้งาน วัสดุอย่างอะลูมิเนียมออกไซด์เหมาะสำหรับงานเจียรโลหะทั่วไป ส่วนซิลิกอนคาร์ไบด์เหมาะสำหรับงานเจียรแก้วหรือเซรามิก ในขณะที่เพชรสังเคราะห์เหมาะสำหรับงานเจียรที่ต้องการความแม่นยำและความละเอียดสูง